โดยทั่วไปแล้ว สแตนเลสเป็นวัสดุที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายด้วยเหตุผลหลักๆ 2 ประการ หนึ่ง คือ ความสามารถในการทนทานการกัดกร่อนในหลายสภาวะ และ สอง คือ ความสวยงามของผิวที่เงาวาว ดูหรูหรามีราคา
แต่มีหลายกรณีที่ผู้ใช้ต้องการเพียงหนึ่งในสองคุณสมบัติดังกล่าว คือ ต้องการคุณสมบัติด้านการทนทานการกัดกร่อนแต่ไม่ได้ต้องการผิวที่เงาวาวของสแตนเลส เช่น ต้องการสีชิ้นงานที่เป็นสีเดียวกับโลโก้ขององค์กร , ต้องการสีชิ้นงานที่กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม, ต้องการสีด้านๆเพื่อไม่ให้เกิดแสงสะท้อนในการใช้งาน
เหตุผลหนึ่งที่ผมเคยได้ยินจากผู้ใช้จริง คือ ต้องการนำไปใช้ในสภาวะกัดกร่อนสูง แต่กลัวถูกขโมย เลยอยากทาสีให้คนอื่นนึกว่าเป็นเหล็ก ในกรณีนี้เรียกว่าไม่ต้องการความสวยงามจากสเตนแลสเลยจริงๆ(ฮะ ๆ)
อย่างไรก็ตาม อันที่จริงแล้วด้วยลักษณะผิวสแตนเลสที่เรียบลื่น ทำให้สแตนเลสไม่เหมาะที่จะนำมาทาหรือพ่นสี เพราะสีจะร่อนหลุดได้ง่าย อีกทั้งยังทำให้คุณสมบัติด้านการต้านทานการกัดกร่อนลดลง เนื่องจากกุญแจสำคัญในการป้องกันการเกิดสนิมคือ การที่ผิวสแตนเลสสามารถสร้างชั้นฟิล์มบางๆขึ้นมาเคลือบผิวกันสนิม ซึ่งกระบวนการสร้างนี้จำเป็นต้องใช้ออกซิเจนมาทำปฏิกิริยากับโครเมียมในเนื้อสแตนเลส เกิดเป็นโครเมียมออกไซด์ การพ่นหรือทาสีจะทำให้ผิวสแตนเลสขาดออกซิเจนไปทำปฏิกิริยา ส่งผลให้ไม่สามารถสร้างฟิล์มโครเมียมออกไซด์ขึ้นมาได้ และทำให้มีโอกาสเกิดสนิมมากขึ้น
อย่างไรก็ดี บางครั้งเรามีความจำเป็นที่จะต้องทำสีด้วยเหตุผลต่างๆที่กล่าวไปแล้ว ซึ่งแม้จะมีความยุ่งยากอยู่บ้างแต่หากทำอย่างถูกวิธีก็จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้ครับ
การทำสีสแตนเลสนั้นต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษเพื่อให้แน่ใจเรื่องความคงทนในสภาวะที่จะนำไปใช้งาน องค์ประกอบหลักในกระบวนการทำสี คือ การเตรียมผิวก่อนทำสี และ ส่วนผสมของสีที่นำมาใช้เคลือบผิว
ผิวสเตนแลสนั้นโดยทั่วไปจะเรียบลื่นกว่าผิวของเหล็กคาร์บอนอยู่แล้ว โดยเฉพาะในแผ่นบางรีดเย็น ซึ่งมีผลมากต่อการยึดเกาะของสี เพื่อให้การยึดเกาะดีขึ้น เราจึงต้องทำให้ผิวสแตนเลสหยาบขึ้นก่อนเคลือบสี
การเตรียมผิวนั้นหลักๆมีอยู่ 3 ขั้นตอนอย่างที่ได้กล่าวไปในบทความที่แล้ว คือ ขั้นตอนขัดหยาบ, ขัดละเอียด และทำความสะอาดผิว
การขัดนั้นอาจจะใช้กระดาษทราย แปรงขัด หรือ ผงขัด ก็ได้ แต่ระวังอย่าให้ผงขัดมีส่วนผสมของเหล็กเพราะอาจทำให้เกิดสนิมได้ เมื่อขัดหยาบแล้วก็ตามด้วยผงขัดที่ละเอียดขึ้น หลังขัดเสร็จควรจะมีความหยาบอยู่ประมาณ 50 ไมครอน
ในส่วนของการทำความสะอาดเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ก่อนที่จะทำสีต้องแน่ใจว่า ไม่มีน้ำมัน ผง ฝุ่น จาระบี และผิวของสแตนเลสต้องแห้งสนิทครับ
ในขั้นตอนทำสีนั้น สีรองพื้นกันสนิมแบบที่ใช้ทาเหล็กทั่วไปนั้นจะมีคุณสมบัติยึดเกาะไม่ดีพอเมื่อนำมาใช้กับสแตนเลส เราจะต้องใช้สีรองพื้นแบบที่เรียกว่า Wash primer หรือ สีรองพื้นกัดผิว ซึ่งเป็นสีรองพื้นที่ใช้สำหรับโลหะผิวมันโดยเฉพาะเช่น อลูมิเนียม,สังกะสี
Wash Primer มีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ และจะกัดผิวโลหะทำให้การยึดเกาะของสีดีขึ้น หลังจากนั้นจึงค่อยตามด้วย epoxy และสีน้ำมันที่จะทาทับตามลำดับครับ
แต่เดี๋ยวนี้การทำสีสแตนเลสก็มีการพัฒนาขึ้นมามาก หลังๆเราจะเห็นการทำสีสแตนเลสเป็นสีทอง/Rose gold/Blackและสีอื่นๆอีกมากมาย สีหลุ่มนี้จะเป็นสีค่อนข้างโปร่ง ซึ่งไม่ต้องรองพื้นก่อนพ่น เพราะฉะนั้นผู้ผลิตจำเป็นต้องเตรียมผิวให้สวยงามก่อนพ่น เนื่องจากด้านใต้ก็ยังสามารถมองเห็นได้หลังทำสีเสร็จ การทำสีชนิดนี้เป็นการทำสีเลียนแบบการชุบPVDครับ
ข้อดีของสีประเภทนี้ก็คือ ::
1.การเตรียมผิวไม่ต้องทำละเอียดเท่าการเตรียมผิวงานชุบ
2.สามารถคุมสีในการพ่นมนแต่ละครั้งได้ เนื่องจากสีเป็นสีผสมตามเฉดที่ต้องการก่อนที่จะพ่น
3. ถ้าพ่นไม่ดี สามารถล้างสีออกได้ง่าย โดยไม่กระทบผิวสแตนเลสที่เตรียมไว้ก่อนหน้า
4. มีหลายสีให้เลือกและดูสวยงาม เลียนแบบงานชุบได้ดี
5. ราคาประหยัดกว่างานชุบPVD
ข้อเสียขอสีประเภทนี้ก็คือ ::
1. สีไม่ทนต่อการะกระเเทก หรือการใช้งานในระยะยาว ต้องอาศัยการmaintenance
2. ถ้าใช้กับงานเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่มีการขยับบ่อยๆ หรือมีความชื้น สีอาจจะลอกออกมาเป็นแผ่นๆได้
3. ไม่ทนกับการใช้ภายนอก
4. สีไม่สม่าเสมอหากชิ้นงานขนาดใหญ่ (ขนาดชิ้นงานที่เกิน2นิ้วก็อาจจะเห็นความไม่เสมอของสีแล้ว)
5. สีไม่เสมอในชิ้นงานที่มีมุม/ซอกเยอะ เพราะเนื้อสีอาจกองตามขอบทำให้สีเข้มตามขอบ/มุมได้
.
.
.
.
.
.
.
.
ต้องการบริการผสมสี สั่งผลิตภัณฑ์สีพ่น หรือ ปรึกษาสอบถาม ติดต่อได้ที่
Tel : 0888966156, 027333588-9
LINE ID : n.happylandpaint
Email : n.happylandpaint@gmail.com
ข้อมูลเพิ่มเติม NHP สีพ่นสีผสมครบวงจร, The Code Color for designer
“น.แฮปปี้เเลนด์ เพ้นท์ สีสั่งได้”